บทที่ 4

การรักษาวันสะบาโต

            การ  ระลึกถึงวันสะบาโตถือเป็นวันบริสุทธิ์  นั้นหมายความว่าเราจะต้องคิดและวางแผนตลอดสัปดาห์ให้ทุกอย่างเตรียมพร้อมเพื่อจะรักษาวันสะบาโตให้เป็นที่ชื่นพระทัยของพระเจ้า  เราต้องระวังไม่ทำงานให้เหนื่อยเกินไปจนไม่สามารถมีความสุขกับการนมัสการในวันสะบาโต

            วันสะบาโตเป็นวันที่จะร่วมสามัคคีธรรมและเข้าเฝ้าพระเจ้าเป็นพิเศษ  เป็นวันฉลองการทรงสร้างและการทรงไถ่  ดังนั้นเราควรระวังไม่ทำกิจกรรมใดที่ทำให้รู้สึกว่าวันสะบาโตไม่ศักดิ์สิทธิ์  พระคัมภีร์ระบุว่าในวันสะบาโตเราจะต้องงดจากการงานของเรา  (อพยพ 20:8-11)  และให้เกียรติพระเจ้าโดย  ไม่ไปตามทางของเจ้าเองหรือทำตามใจของเจ้า  หรือพูดแต่เรื่องไร้สาระ  (อิสยาห์ 58:13)  การหาสิ่งบันเทิง  การคิด  การฟัง  การพูดหรือการทำกิจกรรมฝ่ายโลก  รวมถึงการเล่นกีฬาในวันสะบาโต  ล้วนแต่เป็นการไม่รักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์  เพราะเป็นการทำลายความสัมพันธ์พิเศษที่จะมีกับพระเจ้าในวันนั้น  เราต้องระวังทั้งตัวเราและทุกคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเราด้วย  คือ  บุตร  ลูกจ้าง  แขก  และสัตว์ใช้งาน  (อพยพ 20:10)  เพื่อจะได้มีส่วนในพระพรแห่งวันสะบาโต

            วันสะบาโตเริ่มต้นเมื่อดวงอาทิตย์ตกดินในเย็นวันศุกร์และสิ้นสุดเมื่อพระอาทิตย์ตกดินในเย็นวันเสาร์  (ปฐมกาล 1:5; มาระโก 1:32; เลวีนิติ 23:32) พระคัมภีร์เรียกวันศุกร์ว่า  วันเตรียม  (มาระโก 15:42)  เป็นวันเตรียมต้อนรับวันสะบาโต  เพื่อจะไม่มีอะไรทำให้วันสะบาโตเสื่อมเสียความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์  ส่วนผู้ที่ประกอบอาหารควรจัดเตรียมอาหารไว้ล่วงหน้าวันศุกร์เพื่อจะได้พักในวันสะบาโต  (อพยพ 16:23, กันดารวิถี 11:8)

            ในขณะที่ดวงอาทิตย์ใกล้จะตกดินในเย็นวันศุกร์สมาชิกครอบครัวหรือกลุ่มผู้เชื่อควรจะร่วมกันร้องเพลงอธิษฐาน  และอ่านพระคัมภีร์เป็นการต้อนรับวันสะบาโต  และควรทำแบบเดียวกันเพื่อส่งท้ายวันสะบาโตในเวลาพลบค่ำของวันเสาร์และขอการทรงนำของพระเจ้าสำหรับสัปดาห์ใหม่

            พระเจ้าทรงเชื้อเชิญคนของพระองค์ให้มีความปีติยินดีในวันสะบาโต (อิสยาห์ 58:13)  และเราจะรื่นเริงยินดีได้ด้วยการปฏิบัติตามแบบอย่างของพระเยซูผู้ทรงเป็นเจ้าเป็นนายเหนือวันสะบาโต  เราจะได้พบความสุขที่แท้จริงและความพึงพอใจที่พระเจ้าทรงเตรียมให้เราในวันนั้น

            พระเยซูทรงเข้าร่วมนมัสการพระเจ้าและทรงสั่งสอนประชาชนในวันสะบาโตอย่างสม่ำเสมอ  (มาระโก 1:29-31; ลูกา 14:1)  ทรงใช้เวลาในธรรมชาติ  (มาระโก 2:23)  และเสด็จไปกระทำความดีโดยรักษาคนป่วย  และคนอนาถา  (มาระโก 1:21-31, 3:1-5; ลูกา 13:10-17, 14:2-4; ยอห์น 5:1-15, 9:1-4)

            เมื่อพวกฟาริสีกล่าวติเตียนพระองค์ที่ทรงรักษาคนป่วยให้หายในวันสะบาโต  พระองค์ทรงตอบเขาว่าพระเจ้าทรง  อนุญาตให้ทำการดีได้ในวันสะบาโต  (มัทธิว 12:12)  การรักษาคนในวันสะบาโตนั้นไม่เป็นการฝ่าฝืนหรือเลิกล้มวันสะบาโตแต่อย่างใด  หากแต่เป็นการยกเลิกข้อบังคับต่างๆ ของพวกฟาริสี  วันสะบาโตเป็นเครื่องมือของพระเจ้าที่จะฟื้นจิตวิญญาณของมนุษย์  แต่พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงความหมายอันแท้จริงนี้เสีย  ดังนั้นกิจกรรมใดก็ตามที่ช่วยให้ใกล้ชิดพระเจ้าจึงเหมาะสมในวันสะบาโต  แต่กิจกรรมที่หันเหความสนใจของเราไปในทางอื่นนั้นไม่สมควรกระทำ

            พระผู้เป็นเจ้าของวันสะบาโตทรงเชิญชวนให้ทุกคนกระทำตามแบบอย่างของพระองค์  ผู้ที่ปฏิบัติตามจะพบว่าวันสะบาโตเป็นวันที่สุขสำราญ  เป็นการเลี้ยงฝ่ายจิตวิญญาณและเป็นการชิมรสของสวรรค์ล่วงหน้า  พวกเขาจะพบว่าวันสะบาโตเป็นยาที่พระเจ้าทรงจัดไว้ให้ในทุกสัปดาห์เพื่อบำบัดความท้อถอย  วันสะบาโตจะนำกำลังใจมาให้เราถึงแม้ว่าอุปนิสัยของเรายังไม่ดีพร้อม  แต่เราก็สามารถอยู่อย่างสมบูรณ์แบบได้ในพระเยซู  ความสำเร็จของพระเยซูบนไม้กางเขนทำให้เราได้กลับคืนดีกับพระเจ้า  ดังนั้นเราจึงเข้าพำนักอยู่ในพระองค์